การถมดินนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากเลยนะครับ เพราะเป็นการวางรากฐานก่อนการก่อสร้างทุกอย่าง ถ้าถมไม่ดีก็อาจจะทำให้สิ่งก่อสร้างที่อยู่บนพื้นดินนั้นเกิดมีปัญหาได้ ดังนั้นวันนี้เรามาดูถึงปัญหาข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการถมดินกันครับ
ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ขัดขวางบริเวณที่จะถมดิน
ถ้าต้นไม่ใหญ่นั้นไม่ส่งผลต่อการก่อสร้างอาคารก็น่าจะเก็บเอาไว้นะครับโดยถมดินรอบๆ ต้นไม้แทนเนื่องจากต้นไม้ใหญ่สามารถให้ร่มเงาแก่อาคารได้แถมไม่ต้องรอเวลาปลูกใหม่แล้วให้โตอีกตั่งหาก แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ จำเป็นต้องตัดจริงๆ ก็ควรขุดรากถอนโคนออกไปให้หมดนะครับเพื่อให้ดินทรุดตัวได้อย่างสม่ำเสมอกัน
การถมดินต้องอัดบดแน่นแค่ไหนถึงจะสร้างสิ่งก่อสร้างได้
การถดินนั้นไม่ต้องอัดบดจนแน่นหรอกครับ ขอเพียงให้ดินมีความแน่นพอสมควรก็ใช้งานได้แล้ว แน่นพอสมควรในที่นี้ก็หมายถึงการเอารถแทร็กเตอร์มาวิ่งไปวิ่งมาให้ทั่วพื้นที่เท่านี้ก็เพียงพอต่อการก่อสร้างบ้านแล้วครับ
เราสามารถนำดินเลนมาใช้ในการถมดินได้หรือไม่
เราสามารถนำดินเลนมาใช้ในการถมดินได้ครับ แต่เนื่องจากดินเลนยังเปียกอยู่จะไม่เหมาะสมเท่าไหร่เนื่องจากความเปียกจะก่อให้เกิดความชื้นภายในดินตามมาและอาจจะก่อให้เกิดปัญหาหลังจากบ้านก่อสร้างเสร็จในภายหลังได้ ดังนั้นก่อนนำดินเลนมาใช้ในการถมดินก็ต้องรอให้ดินเลนแห้งสนิทก่อนครับถึงนำมาใช้ถมได้
การถมดินถ้าจะเผื่อดินทรุดต้องถมเท่าไหร่
การถมดินนั้นหลังจากถมและอัดดินจนได้ที่แล้วก่อสร้างทันทีก็ไม่ต้องเผื่ออะไรมากนักครับ แต่ถ้าถมแล้วยังไม่ก่อสร้างถมแล้วทิ้งระยะเป็นเวลานานต้องถมให้มีความสูงกว่าปรกติประมาณ 1 เมตรเป็นอย่างน้อย
มีดินอะไรที่นำมาถมแล้วดินไม่ทรุดตัว
ไม่ว่าจะดินชนิดไหน ดินอะไร ลักษณะไหนเมื่อนำมาถมก็ล้วนแล้วแต่มีอาการทรุดตัวทั้งนั้นครับ เนื่องจากการทรุดตัวของดินนั้นทรุดเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ต่อให้บดแน่นอย่างไรก็ยังมีอาการทรุดตัวอยู่ดีครับ
ทางเท้ารอบบ้านพื้นปูนแตกแก้ไขอย่างไรดี
ถ้าทางเท้าที่เป็นพื้นปูนแตกแสดงว่าดินที่รองรับเอาไว้นั้นเกิดการทรุดตัวตามธรรมชาติครับ วิธีแก้ไขคือให้เปลี่ยนจากทางเท้าพื้นปูนเป้นพื้นที่ปูด้วยอิฐบล็อคแทน เนื่องจากการทรุดตัวของดินนั้นมีอยู่ตลอด เพื่อลดอาการแตกของทางเท้าจึงควรใช้อิฐบล็อคปูแทนเพียงเท่านี้ต่อให้ดินทรุดตัวลงไปบ่อยแค่ไหนก็ไม่มีผลกระทบให้ต้องมาซ่อมรอยแตกบ่อยๆ แบบพื้นปูนแล้วล่ะครับ
บทความต่อไปเชิญพบกับหัวข้อ ดูแลบ้านอย่างไรให้สภาพดี